วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (ฝรั่งเศส: Musée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะอันตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์คาเปเทียง ตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกและยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีสพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป็น สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน

พีระมิดลูฟร์
พีระมิดลูฟร์ (อังกฤษ: Louvre Pyramid) เป็นพีระมิดที่สร้างขึ้นจากกระจกและโลหะ มีพีระมิดขนาดเล็กกว่า 3 หลังตั้งอยู่โดยรอบ ตั้งอยู่ที่ลานหน้าพิพิธภัณฑสถานลูฟร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำหน้าที่เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2532[1] และกลายเป็นหนึ่งในจุดสังเกตของกรุงปารีส

การออกแบบและก่อสร้าง

การก่อสร้างพีระมิดนี้มอบหมายโดยฟรองซัว มิตแตร์รองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2527 ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป่ย สถาปนิกที่เคยรับผิดชอบการออกแบบ Miho Museum ที่ญี่ปุ่น โครงสร้างพีระมิดนี้สร้างขึ้นจากแผ่นกระจกทั้งหลัง มีความสูง 20.6 เมตร ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาวด้านละ 35 เมตร ประกอบขึ้นจากแผ่นกระจกรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน 603 แผ่น และแผ่นกระจกรูปสามเหลี่ยม 70 แผ่น[2]
พีระมิดและโถงทางเข้าที่อยู่ข้างใต้ สร้างขึ้นเนื่องจากทางเข้าเดิมของลูฟร์ไม่สามารถรองรับจำนวนผู้มาเยือนที่มีมากในแต่ละวันได้อีกแล้ว ผู้มาเยือนที่เข้าจากพีระมิดจะลงไปโถงทางเข้ากว้างขวาง แล้วกลับขึ้นไปยังอาคารหลักของลูฟร์ พิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งได้นำแนวคิดนี้ไปใช้ เช่น Museum of Science and Industry ในชิคาโก การก่อสร้างพีระมิดและโถงทางเข้าใต้ดินดำเนินการโดย Dumez[3]
กระจก 666 แผ่น: ตำนานเมือง
บางคนกล่าวอ้างว่าแผ่นกระจกบนพิระมิดลูฟร์มีทั้งหมด 666 แผ่น ซึ่งเป็น "number of the beast" ที่มักจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับซาตาน ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์จำนวนมาก ตัวอย่างเช่น หนังสือของ Dominique Stezepfandt ที่มีชื่อว่า François Mitterrand, Grand Architecte de l'Univers ได้กล่าวไว้ว่า "พีระมิดถูกอุทิศให้แก่พลังที่เล่ากันว่าเป็น Beast ใน พระคัมภีร์วิวรณ์ (...) โครงสร้างทั้งหลังมีรากฐานอยู่บนเลข 6"
เรื่องราวของกระจก 666 แผ่นเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวทศวรรษที่ 1980 (พ.ศ. 2523-2532) โดยแผ่นพับโฆษณาอย่างเป็นทางการที่ตีพิมพ์ระหว่างการก่อสร้างได้กล่าวอ้างถึงตัวเลขนี้ถึงสองครั้ง แต่หน้าก่อนๆในแผ่นพับกล่าวไว้ว่ากระจกมี 673 แผ่น ตัวเลข 666 ยังถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑสถานลูฟร์ได้แถลงว่า พีระมิดประกอบขึ้นจากแผ่นกระจก 673 แผ่น (รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน 603 แผ่น และรูปสามเหลี่ยม 70 แผ่น) [4] มีผู้พยายามนับจำนวนแผ่นกระจกบนพีระมิดอยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะนับได้จำนวนที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่จะมากกว่า 666 แผ่นทุกครั้ง

นักบุญจอร์จ (อังกฤษ: St. George (Raphael)) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยราฟาเอล[1]จิตรกรสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์, ปารีสในประเทศอิตาลี ภาพ นักบุญจอร์จเขียนในปี ค.ศ. 1504 ต่อมาระหว่าง ค.ศ. 1504 ถึง ค.ศ. 1506 ราฟาเอลเขียนภาพในหัวข้อเดียวกัน นักบุญจอร์จและมังกร (หอศิลป์แห่งชาติ, วอชิงตัน ดี.ซี.)



พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญแอนน์ (อังกฤษ: The Virgin and Child with St. Anne) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี]] [1]จิตรกรสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ที่ปารีสในประเทศฝรั่งเศส

พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญแอนน์เป็นงานที่เขียนราวปี ค.ศ. 1508 เป็นภาพของนักบุญแอนน์ (แม่ของเวอร์จินแมรี) เวอร์จินแมรี และพระบุตร พระบุตรกำลังไขว่คว้าแกะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทุกขกิริยาของพระเยซู ขณะที่พระแม่มารีทรงพยายามรั้งไว้ ภาพเขียนไดัรับจ้างให้เขียนสำหรับเป็นฉากแท่นบูชาเอกที่บาซิลิกาเดลลาซานทิซซิมาอันนันซิอาตาแห่งฟลอเรนซ์ (Santissima Annunziata, Florence) และเป็นหัวเรื่องที่ดา วินชีครุ่นคิดมานาน




พระแม่มารีแห่งภูผา (อังกฤษ: Virgin of the Rocks) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันสองภาพที่มีลักษณะการวางภาพที่เหมือนกันที่เขียนโดยเลโอนาร์โด ดา วินชีจิตรกรคนสำคัญสมัยเรอเนซองส์ชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในกรุงปารีสและเลโอนาร์โด ดา วินชียังได้วาดภาพนี้ขึ้นอีกชิ้นและปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่หอศิลป์แห่งชาติ, ลอนดอนในอังกฤษ